วันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

อิตาเลียนสมัยกลาง (Gothic)

อิตาเลียนสมัยกลาง (Gothic)
เป็นช่วงระยะเวลาระหว่างศตวรรษที่ 10, 11 และ 15 เป็นช่วงที่อาณาจักรโรมันเสื่อม อำนาจลงและหมดยุคของ Constantinople ใน ค.ศ. 1453 การแต่งกายของชายหญิง ยังคง คล้ายกับสมัย Byzantine ซึ่งสีและแบบของเสื้อผ้าจะได้รับอิทธิพลจากการแต่งกายของพระ

ตอนแรกผู้ชายจะสวมชุดทูนิคแขนยาว ตัวยาวถึงเข่าเรียกว่า Bliaud ส่วนผู้หญิงสวมชุด แบบเดียวกันยาวถึงข้อเท้า จะใส่เสื้อคลุมที่เรียกว่า Pallium มีเข็มกลัดกลัดไว้ ผู้ชายจะใส่ถุงน่อง ยาวรัดรูปเรียกว่า Stockings ซึ่งได้แบบมาจากตอนเหนือของบาบาเรียน ถุงน่องยาวจะยึดกับ เข็มขัดที่คาดเอว ซึ่งสายนี้จะคาดไขว้มาจากใต้เข่า ต่อมาผู้ชายก็เปลี่ยนมาใส่ Bliaud ยาวถึงหน้า แข้ง

ศตวรรษที่ 11 มีชุดชั้น ในเรียกว่า Chainse ที่ทำจากผ้าขนสัตว์ ลินิน ป่าน หรือไหม ซึ่งจะใช้เป็นกระดุมหรือผูกเชือกติดที่คอ ใช้ใส่ทั้งผู้ชายและผู้หญิง ต่อมา Chainse ได้กลายมา เป็นชุดชั้น ในที่เรียกว่า Lingerie ซึ่งทำจากผ้าแพรบางสามารถซักได้ และมีประดับตกแต่งด้วยลูกไม้ บริเวณรอบคอและข้อมือ แล้วสวม Bliaud หรือชุดทูนิคยาวถึงพื้น ทับ ซึ่งใส่ได้ทั้งปล่อยตรง ๆ หรือ ใช้เครื่องรัดเอวที่ตกแต่งด้วยเพชรอีกทีก็ได้ ชุดนี้จะมีแขนยาว ผ้าจะมีการแตกต่างหรูหรามาก ถ้าหนาวจะมีการตกแต่งชายเสื้อ หรือแนวเส้นตะเข็บต่าง ๆ ด้วยขนสัตว์ที่เรียกว่า Ermine

ส่วนในศตวรรษที่ 13 ผู้ชายจะสวมชุดทูนิคที่สั้น มากเหนือเข่าขึ้น มา บางทีก็ใส่ตรงหรือไม่ ก็คาดเข็มขัด โดยจะมีชายเหลือต่ำจากเอวประมาณ 2-3 นิ้ว ใส่ถุงน่องยาวถึงสะโพกสีแดงและ ประดับด้วยทองและเพชร สวมรองเท้าหนังนิ่ม ๆ

ผ้า ใช้ผ้าลินินจะย้อมด้วยสีแดงเลือดหมู เขียว นำ้เงิน และม่วงแดง ผ้าทอยกดอกและ ผ้ากำมะหยี่ปัก ซึ่งในศตวรรษที่ 12, 13 ชาวซิซิลีจะทอผ้าไหมยกดอกได้สวยที่สุดในโลก แต่ผ้า ขนสัตว์ก็ยังใช้อยู่

ชุดไว้ทุกข์ใส่ทูนิคสีดำและเสื้อคลุมเป็นแถบสีขาว ผู้หญิงจะสวมชุดสีขาวใส่หมวกแก๊บ และมีผ้าคลุมไหล่

เพศชายที่สูงอายุจะสวมที่คลุมศีรษะที่เรียกว่า Liripipe มีลักษณะเป็นทั้งที่คลุมศีรษะ (Hood) และคลุมไหล่ด้วย ด้านหน้าจะมีส่วนยื่นออกมาคล้ายปีกหมวก แล้วสวมใส่จะปิดคอ หรือแขน หรืออาจจะปล่อยลงไปทางด้านหลังก็ได้ ต่อมาวิวัฒนาการเป็นผ้าจีบและม้วนบนหมวก ลักษณะเหมือนหมวกแขก เรียกว่า Roundlet

ผู้ชายจะใส่หมวกเป็นรูปครึ่งวงกลม ขอบหมวกจะม้วนขึ้น และมีขนนกยาวจะสวมทับ บนผ้าคลุมศีรษะอีกที

ในศตวรรษที่ 14 ผู้หญิงมีการใช้เครื่องรัดทรง สวมเสื้อกระโปรงเป็นชุดติดกัน ตัวกระโปรง มีจีบรูดพอง มีการตกแต่งด้วยลูกไม้ด้านหน้าตามแนวตะเข็บเปิดด้านหน้า เป็นรูปแบบของการ เน้นรูปร่างทรวดทรงให้เห็นลักษณะเส้นกรอบนอก (Silhouette) ของรูปร่าง

ในยุคกลางนี้ การคลุมศีรษะของสตรีเป็นสิ่งที่สำคัญจะคลุมด้วยผ้าฝ้ายหรือไม่ก็ผ้าลินิน จะเป็นผ้าสี่เหลี่ยมหรือวงกลม จะคลุมไหล่แล้วปล่อยเป็นหางตํ่าลงมา เหมือนกับการห่มแบบ Palla เรียกว่า Headrail หรือ Wimple แล้วใส่มงกุฎทับอีกที ซึ่งเป็นเครื่องแสดงยศฐาบรรดาศักดิ􀃍 จนกระทั่วถึงศตวรรษที่ 16 หมวกมีลักษณะการใช้ผ้าลินินสีขาวพันใต้คางและรอบศีรษะ ที่เรียกว่า Chinband ผมทรง Madonal Style คือเป็นทรงแสกกลางแล้วปล่อยยาวลงไปก็เป็นที่นิยมกัน

หมวกที่ใช้ก็มีหลายรูปแบบ เป็นแบบ Hood หรือ Chaperon แบบ Chinband แบบ Wimple เป็นการใช้ผ้าคลุมศีรษะถึงคอ ใช้ Net คลุมผม หมวกอีกชนิดหนึ่งเรียกว่า Hennin เป็นหมวกลักษณะเหมือนภูเขาสูง 2 ลูก และมีผ้าบาง ๆ คลุมเวลาสวมใส่

รองเท้าจะใช้ผ้ากำมะหยี่ปักด้วยเพชรนิลจินดาสีต่าง ๆ หุ้มถึงข้อเท้า ต่อมานิยมใช้หนังอ่อน นุ่มแทน รองด้วยไม้หนาเหมือนเกี๊ยะเรียกว่า Chopine สวมถุงมือทำด้วยหนังปักด้วยเพชรนิล จินดา

ในสมัยกลาง เสื้อผ้าจะมีราคาแพง หรูหรามาก เครื่องประดับต่าง ๆ จะเป็นเพชรนิลจินดา เป็นทองรูปพรรณ
การแต่งกายของชาวอิตาเลียนสมัยกลางรูปแบบหนึ่ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น